Home Uncategorized ขาดวิตามินดี มีผลอย่างไร
Uncategorized

ขาดวิตามินดี มีผลอย่างไร

ช่วงนี้หลายคนที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น อาจจะได้ลองตรวจเลือดเพื่อหาระดับของวิตามินดี กันมาบ้าง และส่วนใหญ่คนไทยซึ่งเป็นเมืองแดด กลับขาดวิตามินดีเป็นส่วนมาก ก็เลยหันมาหาวิตามินดี3 มาทาน เพื่อชดเชย

การขาดวิตามินดี อาจมีผลกระทบต่อร่างกายในหลายด้าน เนื่องจากวิตามินดี มีบทบาทสำคัญในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพกระดูกและระบบภูมิคุ้มกัน ใครที่มีอาการภูมิแพ้ ผื่นแพ้ผิวหนังต่างๆ อาจจะเกิดจากการขาดวิตามินดีก็ได้ แนะนำให้ลองไปตรวจวิตามินดีตามโรงพยาบาล หรือตามคลีนิคที่มีแล็บตรวจก็ได้ ถ้าขาดวิตามินดีจริง แล้วเราทานเสริมก็จะทำให้ร่างกายเราดีขึ้น

อาการที่อาจเกิดขึ้นได้ หากขาดวิตามินดี ได้แก่:

1. อาการทางกระดูกและกล้ามเนื้อ

  • กระดูกเปราะบาง แตกหักง่าย
  • ปวดกระดูก หรือกระดูกอ่อนแอ (โดยเฉพาะในเด็ก อาจเกิดโรคกระดูกอ่อน หรือ Rickets)
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือปวดเมื่อย

2. ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง

  • ติดเชื้อบ่อย โดยเฉพาะทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัดหรือโรคปอด

3. ปัญหาทางอารมณ์และจิตใจ

  • อ่อนเพลียเรื้อรัง
  • ซึมเศร้า หรืออารมณ์ไม่มั่นคง (วิตามิน D มีบทบาทในสมอง)

4. ปัญหาสุขภาพเรื้อรัง

  • อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ เบาหวานชนิดที่ 2 และโรคความดันโลหิตสูง

5. ในเด็ก

  • เจริญเติบโตช้า
  • โครงสร้างกระดูกผิดปกติ เช่น ขาโก่ง

6. ในผู้สูงอายุ

  • เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน
  • เสี่ยงต่อการล้มและกระดูกหัก

วิธีป้องกันและแก้ไข

  • รับแสงแดดวันละ 10-30 นาที (ขึ้นอยู่กับสีผิวและช่วงเวลา)
  • รับประทานอาหารที่มีวิตามินดี สูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ไข่แดง และนมเสริมวิตามินดี
  • พิจารณาเสริมวิตามินดี 3 แต่ต้องตรวจให้ทราบผลก่อนว่าขาดจริงๆ หรือขอคำแนะนำจากคุณหมอก็ได้

ลดความเสี่ยงจากการสะสมแคลเซียมส่วนเกิน ด้วยวิตามิน D3 และ K2

หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า การได้รับแคลเซียมมากเกินไปนั้น อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายและเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคต่างๆ ได้ วิธีแก้ปัญหานี้คือ การรับประทานวิตามิน D3 และ K2 ควบคู่กัน เพราะวิตามินเหล่านี้จะช่วยลดการสะสมของแคลเซียมส่วนเกิน และรักษาระดับแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับสุขภาพกระดูกที่แข็งแรง

การได้รับวิตามิน D3 และ K2 ในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายอยู่ในภาวะปลอดภัยจากโรคภัยต่างๆ ในอนาคต ลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพที่อาจตามมาจากการสะสมของแคลเซียมส่วนเกิน ดังนั้น การเสริมวิตามิน D3 และ K2 จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการดูแลสุขภาพในระยะยาว

Leave a comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related Articles

โปรตีนอัลมอลด์ New Life Plus รสชาเขียวมัทฉะ

ผสมผสานระหว่างโปรตีนอัลมอนด์ออแกนิกส์ ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา ข้าว และเมล็ดฟักทอง ที่มีความมันนัวร์ กับชาเขียวเกรดมัทฉะพรีเมี่ยม เข้ากันอย่างลงตัว รสชาติอร่อย ทานง่าย หวานมันกำลังพอดี (น้ำตาล...

ไซเลี่ยม ฮัสค์ (Psyllium Husk) ไฟเบอร์จากธรรมชาติ

ไซเลี่ยมฮัสค์ (Psyllium Husk) คือ ใยอาหารชนิดหนึ่งที่สกัดมาจากเมล็ดเทียนเกล็ดหอย (Plantago ovata) มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกาเหนือ ปัจจุบันแพร่ขยายพันธุ์ไปทั่วโลก พบมากที่สุดในประเทศอินเดีย ไซเลี่ยมฮัสค์เป็นพืชใยอาหาร (Fiber)...